การขับถ่ายสำหรับหลาย ๆ คนคือเรื่องใหญ่มาก คนไหนตื่นเช้ามาแล้วเข้าห้องน้ำได้ทันทีก็ถือว่าโชคดี แต่สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ถ่ายยาก ใช้เวลาหลายวันกว่าจะถ่ายสักครั้ง มันสร้างความรู้สึกรำคาญใจ อึดอัด แถมยังไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะร่างกายยังคงสะสมของเสียเอาไว้ ไม่ได้ถูกปล่อยออกมา ด้วยเหตุนี้คนมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายจึงพยายามมองหาวิธีที่จะช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายตัวมากขึ้น และนี่คือ 5 เทคนิคสุดลับที่รับรองว่าช่วยให้คุณรู้สึกดีในการขับถ่าย
5 เทคนิค ที่ช่วยให้การขับถ่ายสะดวกยิ่งขึ้น
(สำหรับคนถ่ายยาก)
1. เน้นการทานอาหารที่อุดมไปด้วยกากใยหรือไฟเบอร์จำนวนมาก
คนที่มีปัญหาท้องผูกส่วนหนึ่งเกิดจากร่างกายไม่ค่อยได้รับกากใยหรือไฟเบอร์ จึงทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหา โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยทานผัก ผลไม้ จะสังเกตเลยว่าเป็นคนขับถ่ายยากกว่าปกติ ดังนั้นการพยายามเลือกทานอาหารที่เต็มไปด้วยกาก อาทิ ส้ม, แอปเปิล, มะละกอ, มะขาม, มะม่วง, แตงโม, ผักโขม, แครอท, ธัญพืชต่าง ๆ ฯลฯ จะช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากระบบย่อยอาหารตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ต้องบอกก่อนว่าแม้กากใยเหล่านี้จะไม่ใช่สารอาหารแต่มันมีหน้าที่หลักในการเพิ่มปริมาณของเสียเพื่อให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น การขับถ่ายจึงง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง
2. ดื่มน้ำสะอาดให้ถูกหลัก
การดื่มน้ำสะอาดเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการ ปกติแล้วในแต่ละวันคนเราต้องดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 6-8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร แต่การดื่มน้ำให้ถูกหลักจะช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม วิธีคือ เมื่อตื่นเช้ามาให้ดื่มน้ำทันที 1-2 แก้ว (น้ำอุณหภูมิปกติ) จากนั้นจึงไปทำภารกิจส่วนตัว น้ำที่ดื่มเข้าไปแก้วแรกของวันจะเริ่มกระตุ้นระบบการทำงานภายในร่างกายโดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย บางคนพอดื่มน้ำไปตอนเช้าแล้วจะเริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทันที แค่นี้ก็ช่วยให้คุณรู้สึกสบายมากขึ้นกว่าเดิม
3. พยายามออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ
การเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งตรงนี้เป็นอีกปัจจัยสำคัญในเรื่องการขับถ่ายมาก ๆ หลายคนมองข้ามและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการออกกำลังกายมีดีกว่าแค่สุขภาพที่แข็งแรง แต่มันช่วยให้ลดปัญหาอาการท้องผูก ถ่ายยากได้อย่างเห็นผล ใครที่ชอบบอกว่าไม่นิยมออกกำลังกาย ก็ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำก็เห็นผลได้ใกล้เคียงกัน เช่น จากเดิมเคยต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์จากปากซอยเข้าบ้านก็ลองเปลี่ยนเป็นการเดิน หรือเริ่มต้นจากการทำงานบ้านทั่ว ๆ ไปก็ได้เช่นกัน
4. หยุดการทานยาระบาย
แม้ชื่อจะบอกว่ายาระบาย ซึ่งความหมายแบบเข้าใจง่ายก็คือ ยาที่ช่วยให้เราขับถ่ายได้คล่องมากยิ่งขึ้นก็ตาม แต่ยาประเภทนี้จะส่งผลเสียมาก ๆ กับระบบลำไส้โดยเฉพาะคนที่ทานเป็นประจำเนื่องจากการทำงานที่ผิดปกติไปเมื่อโดนตัวยาบีบรัดให้พยายามขับของเสียออก ใครที่ทานนานมาก ๆ เข้าอาจส่งผลให้ลำไส้เกิดความแปรปรวนจนไม่สามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม นี่จึงเป็นอีกเทคนิคที่แนะนำว่าให้เลิกการทานยาระบายดีกว่าแล้วลองหันไปทานอาหารเสริมแทนจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าเยอะมาก ๆ
5. ทานอาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย
เน้นย้ำว่าไม่ใช่การเลือกทานยาถ่าย แต่เป็นการทานอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะอาหารเสริมที่เน้นในเรื่องนี้จะมีส่วนผสมของสารสกัดต่าง ๆ ที่เห็นผลได้จริง เช่น อาหารเสริมที่มีส่วนผสมหลักเป็นแอปเปิล, ส่วนผสมของเบอร์รี่ ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้มีกากใยอาหารสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อถูกนำมาพัฒนาให้กลายเป็นอาหารเสริมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ความโดดเด่นดังกล่าวมากขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ควรเลือกแบรนด์อาหารเสริมที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ ทานแล้วไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตนเองด้วย อีกเรื่องคือ ต้องทานตามคำแนะนำของอาหารเสริมตัวนั้น ๆ เพื่อความปลอดภัย
สรุป
ถือว่าเทคนิคทั้ง 5 ข้อที่มาแนะนำนี้สามารถเอาไปใช้ได้จริงโดยเฉพาะกับคนที่มีปัญหาขับถ่ายยากกว่าปกติมาก ๆ อย่าลืมว่านี่เป็นอีกเรื่องสำคัญในชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการไม่ขับถ่ายนาน ๆ อาจส่งผลกระทบระยะยาวจนทำให้เกิดโรคบางอย่างที่คุณคาดไม่ถึงได้เลยด้วยซ้ำ






บทความที่น่าสนใจ
เมลาโทนิน คืออะไร? และสำคัญอย่างไร? (Melatonin)
เป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างได้ในร่างกายของคนเรา ซึ่งถูกสร้างในสมองยามที่เราหลับ เพราะฮอร์โมนชนิดนี้ถูกสร้างโดยต่อมไพเนียล ที่มักจะทำงานในเวลาที่มีแสงสว่างน้อยหรือไม่มีแสงสว่างเลย
ผักเชียงดา สายพันธุ์อินเดีย คืออะไร? (Gymnema Sylvestre)
เป็นสมุนไพรท้องถิ่นของอินเดีย มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในเรื่องของการลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากช่วยยับยั้งการขนส่งน้ำตาล และชะลอการดูดซึมน้ำตาล
แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา คืออะไร? (Apple Cider Vinegar)
น้ำแอปเปิลไซเดอร์ คือน้ำส้มสายชูที่หมักจากผลแอปเปิ้ลสด ช่วยย่อยอาหาร ควบคุมน้ำตาล ลดน้ำหนัก บำรุงหัวใจ ปรับสมดุลฮอร์โมน และช่วยให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น
สารสกัดจากตังกุย คืออะไร? (Dong Quai Root Extract)
ตังกุยจะถูกนำมาใช้เพื่อเป็นทางเลือกทางธรรมชาติให้กับผู้หญิงที่มีความผิดปกติทางด้านฮอร์โมน หรือผู้หญิงที่ถึงวัยหมดประจำเดือนแล้ว ถือเป็นการทดแทนฮอร์โมนด้วยสรรพคุณของตังกุยนั่นเอง
ขมิ้นชัน ทั้งแบบผงและสารสกัด คืออะไร? (Turmeric Organic)
ขมิ้นชัน ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณที่เด่นชัดมาก และยังมีผลข้างเคียงที่น้อย ดังนั้น ขมิ้นชันจึงถือเป็นพืชสมุนไพรที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนที่มีอาการทางระบบทางเดินอาหารสามารถเลือกมาใช้ได้