ไขมันหน้าท้องเจ้าปัญหา !
หากผู้ชายมีมากกว่า เสี่ยง ต่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าผู้หญิงจริงหรือ ?
การตรวจสุขภาพประจำปีของทุกปีที่เป็นปกติ ทุกคนต่างต้องได้รับการตรวจน้ำตาลในเลือดอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการตรวจที่ค่อนข้างสำคัญและเป็นสากลทั่วไปในการป้องกันความเสี่ยงหรือรักษาภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวานนั่นเอง แต่หลายคนอาจยังไม่ได้ทราบถึงจุดประสงค์ของการตรวจสุขภาพอย่างหนึ่งที่ถือเป็นขั้นตอนที่ต้องทำเสมอ นั่นคือ การวัดรอบเอว นั่นเอง
จริงๆแล้ว เราวัดรอบเอวกันไปเพื่ออะไร ? เคยลองสังเกตหรือไม่ ว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับการตรวจสุขภาพประจำปี
ในบทความนี้เรามีคำตอบมาให้ได้ทราบกันอย่างชัดเจน ว่าแท้จริงแล้ว การวัดรอบเอวนั้น เราวัดอะไร
และมีผลอย่างไรกันแน่ ???
วัดไขมันหน้าท้องจากรอบเอว
หลายคนอาจยังไม่ทราบกันเลยว่า เราสามารถประเมินภาวะของไขมันหน้าท้องได้ด้วยการวัดรอบเอว โดยทั่วไปในภาวะปกติแล้วนั้น ผู้หญิงจะต้องมีรอบเอวไม่เกิน 80 เซนติเมตร และผู้ชายจะต้องมีรอบเอวไม่เกิน 90 เซนติเมตร หากขนาดของรอบเอวเกินกว่าปกติ อาจต้องได้รับการตรวจไขมันในเลือดเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยโรคอ้วนลงพุงต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนลงพุงนี้ เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อระดับน้ำตาลในเลือดเลยทีเดียว
ไขมันหน้าท้องส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร
ภาวะที่มีไขมันหน้าท้องเกินกว่าปกติ เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆในร่างกาย รวมไปถึงอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลด้วยเช่นกัน เมื่อมีกระบวนการเผาผลาญอาหารที่รับประทานเข้าไปทำงานอย่างผิดปกติ กระบวนการย่อยสลายน้ำตาลในร่างกายก็จะด้อยลงตามไปด้วย ทำให้การเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายไม่ดีเท่าที่ควร จึงเกิดการสะสมของน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งอาจส่งผลทำให้กลายเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุด
ไขมันหน้าท้องของผู้ชายเสี่ยงกว่าของผู้หญิงอย่างไร ?
จากที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าไขมันหน้าท้องนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างแน่นอน เพราะการเผาผลาญที่ผิดปกตินั้นส่งผลให้การเผาผลาญน้ำตาลผิดปกติไปด้วย แต่เมื่อมองในลักษณะทางกายภาพของผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องความเสี่ยงต่อการส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากในทางกายภาพของการกระจายไขมันของผู้หญิงนั้น เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป ไขมันต่างๆจะไปสะสมตามบริเวณใต้ผิวหนัง ตามสะโพก และต้นขา จะไม่ได้ไปสะสมที่หน้าท้องโดยทันที แต่กลับกัน ในทางกายภาพของการกระจายไขมันของผู้ชายแล้ว เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป ไขมันต่างๆจะสะสมอยู่ที่ตับ รอบเอว และบริเวณหน้าท้องทันที และมากกว่าผู้หญิง หรือที่พูดกันทั่วไปคือ ไขมันไปกองรวมอยู่ที่หน้าท้อง นั่นเอง ด้วยเหตุนี้เอง ระดับจำกัดในการรับไขมันของผู้ชายจึงน้อยกว่าผู้หญิง เมื่อรับไขมันไปมากกว่าขีดจำกัด ยิ่งส่งผลทำให้กระบวนการเผาผลาญแย่ลง และส่งผลไปถึงการเผาผลาญน้ำตาลในเลือดด้วย ด้วยเหตุผลนี้เองคนส่วนใหญ่จึงกล่าวกันว่า ผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะมีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้มากกว่าผู้หญิง เนื่องจากปัจจัยเรื่องไขมันหน้าท้องที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น ภาวะไขมันหน้าท้องที่เกินกว่าปกตินั้น นอกจากจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดที่จะสูงขึ้นแล้ว ยังส่งผลในเรื่องอื่นๆด้วย เช่น อาจทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง ภาวะไขมันในเลือดสูง รวมไปถึงโรคทางระบบหลอดเลือดและหัวใจด้วย
ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญเลยทีเดียวที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะผิดปกติต่างๆได้ โดยสามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรมต่างๆ เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ชีวิตแต่ละวัน และเพิ่มเติมการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ ก็สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสะสมของไขมันหน้าท้อง และยังลดความเสี่ยงต่อโรคอื่นๆที่จะตามมาไปด้วย
บทความเพื่อสุขภาพ
- 6 ประโยชน์ ของแอปเปิ้ลไซเดอร์ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน
- ขับถ่ายดีขึ้น! เพียงทำตาม 5 วิธีนี้ (สำหรับคนถ่ายยาก)
- หิวบ่อย ทานจุกจิก! แก้ไม่ยาก! กับ 10 เคล็ดลับหยุดกินช่วงกักตัว
- ด่วน! รีบเช็คอาหาร สารพิษตกค้างในลำไส้